พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในการแก้ไขและบำบัดน้ำเสียในชุมชนเขตกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ โดยพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันทดลองหาวิธีแก้ไขและบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการที่ง่าย ๆ และเหมาะสม ขณะนี้การบำบัดน้ำเสียตามแนวพระราชดำริด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้ส่งผลเป็นที่น่าพอใจและกำลังเผยแพร่ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศมากขึ้น การบำบัดน้ำเสียตามแนวพระราชดำรัสที่พระราชทานให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานนั้น จะเป็นประโยค ง่าย ๆ และได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดีเป็นข้อความง่าย ๆ ที่มีความหมายลึกซึ้ง และบางครั้งบอกถึงวิธีการดำเนินการไว้ด้วย ดังพระราชดำริในเรื่องต่อไปนี้
1."น้ำดีไล่น้ำเสีย" ทรงแนะนำให้ใช้หลักการแก้ไขโดยใช้น้ำที่มีคุณภาพดีจากแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยผลักดันและเจือจางน้ำเน่าเสียให้ออกจากแหล่งน้ำของชุมชนในเขตเมือง ตามคลองต่าง ๆ เช่น คลองบางเขน คลองบางซื่อ คลองแสนแสบ คลองเทเวศร์ และคลองบางลำภู เป็นต้น วิธีนี้จะกระทำได้ด้วยการเปิด-ปิดประตูอาคารควบคุมน้ำ รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงจังหวะน้ำขึ้นและระบายน้ำสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวะน้ำลง ผลก็คือตามลำคลองต่าง ๆ มีโอกาสไหลถ่ายเทหมุนเวียนกันมากขึ้น น้ำก็จะกลับกลายเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติง่าย ๆ
2. "ไตธรรมชาติ" พระราชดำริในการบำบัดน้ำเสียของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยทรงเปรียบเทียบว่า "บึงมักกะสัน" เป็นเสมือน "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานครที่เก็บกักและฟอกน้ำเสียตลอดจนเป็นแหล่งเก็บกักและระบายน้ำในฤดูฝน และโปรดเกล้าฯ ให้มีการทดลองใช้ ผักตบชวา ซึ่งเป็นวัชพืชที่ต้องการกำจัดอยู่แล้วมาช่วยดูดซับความสกปรกปนเปื้อนรวมตลอดทั้งสารพิษต่าง ๆ จากน้ำเน่าเสีย ประกอบเข้ากับเครื่องกลบำบัดน้ำเสียแบบต่าง ๆ ที่ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้นขึ้นเอง โดยเน้นวิธีการที่เรียบง่าย ประหยัด บึงมักกะสันในปัจจุบันได้ทำหน้าที่ "ไตธรรมชาติ" ของกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพได้มีส่วนช่วยบรรเทามลพิษทางน้ำ และเป็นแหล่งศึกษาทดลองด้านการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังพระราชกระแสที่พระราชทานแก่เจ้าหน้าที่ความตอนหนึ่งว่า
"…ในกรุงเทพมหานครต้องมีพื้นที่หายใจ แต่ที่นี่เราถือว่าเป็นไตกำจัดสิ่งสกปรกและโรค สวนสาธารณะถือว่าเป็นปอด แต่นี่เหมือนไตที่ฟอกเลือด ถ้าไตทำงานไม่ดีเราตาย อยากให้เข้าใจหลักการของความคิดนี้…."
3. การบำบัดน้ำเสียโดยวิธีการเติมอากาศ ในปัจจุบันสภาพความเน่าเสียของน้ำบริเวณต่าง ๆ มีความรุนแรงมากขึ้น น้ำในคลองและแหล่งน้ำสาธารณะต่าง ๆ ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนและมีผลเสียต่อสุขภาพอนามัย จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องกลเติมอากาศเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัย ได้พระราชทานรูปแบบและพระราชดำริในการสร้างและพัฒนาเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวหน้าหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ซึ่งมีใบพัดขับเคลื่อนน้ำและซองวิดน้ำไปสาดกระจายเป็นฝอย เพื่อให้สัมผัสกับอากาศได้อย่างทั่วถึง เป็นผลให้ออกซิเจนในอากาศสามารถละลายเข้าไปในน้ำได้อย่างรวดเร็ว และในช่วงที่น้ำเสียถูกยกขึ้นมากระจายสัมผัสกับอากาศตกลงไปยังผิวน้ำ จะทำให้เกิดฟองอากาศจมตามลงไป ก่อให้เกิดการถ่ายเทออกซิเจนอีกส่วนหนึ่ง เครื่องกลเติมอากาศ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" นี้สามารถนำไปผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้โดยตรง และยังสามารถใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากแหล่งชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม และแหล่งเกษตรกรรม กล่าวคือ ใช้เพิ่มปริมาณออกซิเจนลงในน้ำ เพื่อเป็นการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น รวมทั้งการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและก่อให้เกิดความปลอดภัยในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพของพสกนิกรทุกกลุ่มอาชีพอีกทางด้วย
กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้รับจดทะเบียนสิทธิบัตรเลขที่ 3127 ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์ และในการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะเข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แทนพระองค์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2536 ซึ่งนับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ 9 ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น